ชูเอา เฟลิกซ์

ประวัติ ชูเอา เฟลิกซ์ กองกลางดาวรุ่งดวงใหม่แห่งวงการลูกหนัง ที่ดีที่สุดในโลก

 

ชูเอา เฟลิกซ์ชูเอา เฟลิกซ์  (Joao Felix) เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 1999 ที่วิเซอู เมืองทางตอนกลางของประเทศโปรตุเกส เขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีใจรักในเกมลูกหนังและได้รับความสนับสนุนจากครอบครัวในการลงเข้าคัดเลือกเป็นนักฟุตบอลอาชีพ จากความเก่งกาจและความสามารถของ เฟลิกซ์ ทำให้เขาสามารถพาตัวเองเข้าไปอยู่ในอคาเดมี่ของสโมสร เอฟซี ปอร์โต้ ในวัยเพียง 8 ขวบเพียงเท่านั้น

เฟลิกซ์ สามารถผ่านการคัดเลือกและเข้าไปอยู่ในศูนย์ฝึกเยาวชนของสโฒสร เอฟซี ปอร์โต้ ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ

หลังจากที่เขาได้เข้ามาอยู่ในศูนย์ฝึกเยาวชนของสโมสร เอฟซี ปอร์โต้ ซึ่งเป็นอคาเดมี่ที่มีความยิ่งใหญ่เป็นอย่างมากในประเทศโปรตุเกส ทำให้เขายังไม่สามารถฉายแววออกมาให้เป็นที่น่าประทับใจกับผู้ฝึกสอนได้ โดย เจา เฟลิกซ์ ใช้เวลาในการพัฒนาฝีเท้าอยู่ในอะคาเดมี่ของสโมสรปอร์โต้ถึง 7 ปีด้วยกัน แต่ก็ไม่สามารถโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมออกมาได้และยังถูกคำพูดจาดูถูกจากสต๊าฟโค้ชว่าไม่เหมาะสมกับการเป็นนักฟุตบอล เพราะเขามีรูปร่างที่เล็กและบอบบางเกินไป ทำให้ เฟลิกซ์ ไม่มีอนาคตในสโมสรแห่งนี้อีกต่อไป และถูกปล่อยตัวออกจากทีมในวัย 15 ปีทันที

ในวัย 15 ปี เฟลิกซ์เลือกย้ายสโมสรมาเล่นให้กับ เบนฟิก้า จนกลายเป็นกำลังหลักของทีม

เจ้าหนู เฟลิก มีพัฒนาการที่ดีกับทางสโมสรอย่างต่อเนื่องทำให้เขาได้รับโอกาสในการลงเล่นให้กับทีมเบนฟิก้าชุด บี ในช่วงปี 2016 ในวัยเพียงแค่ 16 ปีเพียงเท่านั้น เจา เฟลิกซ์ ได้ลงเล่นให้กับทีมชุดบีไปทั้งหมด 13 นัด และสามารถทำไปได้ 3 ประตู จนกระทั่งในปีต่อมา เขาก็สามารถที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักและโชว์ฟอร์มออกมาออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่องกันถึง 2 ฤดูกาลกับทีมชุดบี และยังสามารถพาทีมก้าวขึ้นไปคว้าอันดับที่ 2 ของรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ของทีมเยาวชนอีกด้วย

หลังจากที่ เจา เฟลิกซ์ ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเทพในถิ่น อิชตาดีอูดูดราเกา ทำให้เขาเริ่มมีความรู้สึกเสียใจและบั่นทอนจิตใจของตัวเขาเป็นอย่างมาก แต่ เฟลิก ก็ได้รับกำลังใจจากทางครอบครัว ทำให้เขาไม่ยอมแพ้และเริ่มกลับมาเดินทางในเส้นทางของนักฟุตบอลอาชีพอีกครั้ง โดยเขาเลือกย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองหลวงอย่างกรุงลิสบอนและเข้ามาทดสอบฝีเท้ากับทางสโมสรเบนฟิก้า จนสามารถพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

 

ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง สโมสรเบนฟิก้าได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมคนใหม่

ซึ่งก็คือ บรูโน่ ลาเก โดยการเข้ามาของกุนซือคนใหม่ในครั้งนี้ได้เข้ามาปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นอย่างมากมาย แถมยังเน้นใช้งานนักเตะดาวรุ่นเป็นส่วนใหญ่อีกด้วย ทำให้ เฟลิกซ์ เริ่มที่จะได้รับโอกาสในการลงสนามมากยิ่งขึ้น และทำให้เขามีฟอร์มการเล่นที่สุดยอดขึ้นมาอีกครั้ง จนสามารถพาสโมสรเบนฟิก้าก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศโปรตุเกสได้สำเร็จจากการลงเล่นไปทั้งหมด 26 นัด ทำไปได้ถึง 15 ประตู และอีก 9 แอสซิสต์ นอกจากนี้ เจา เฟลิกซ์ ยังสามารถสร้างสถิติใหม่ให้กับวงการฟุตบอลโปรตุเกสอีกครั้ง ด้วยการเป็นนักเตะที่มีอายุน้อยที่สุดที่สามารถทำแฮตทริกได้สำเร็จในศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ด้วยวัยเพียง 19 ปี กับอีก 152 วัน ซึ่งสถิตินี้ได้เกิดขึ้นในเกมที่ เบนฟิก้า เอาชนะ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ไป 4-2 และนี่ยังถือเป็นแฮตทริคแรกในการเป็นนักเตะอาชีพของเจ้าหนูรายนี้อีกด้วย

หลังจากที่เขาได้พิสูจน์ตัวเองอยูในทีมชุดบีมาเป็นระยะเวลา 2 ฤดูกาล จนกระทั่งซีซั่น 2018-2019 เฟลิก ได้ถูกดันให้ขึ้นมาเล่นบนทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัว ซึ่งเกมแรกของเขานั้นเกิดขึ้นในการแข่งขันนัดที่ 2 ประจำฤดูกาล โดยเขาได้ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในฐานะตัวสำรองในนาทีที่ 88 และได้สัมผัสชัยชนะกับทางต้นสังกัดเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นเขาก็ได้ลงประเดิมสนามในฐานะนักเตะตัวจริง ซึ่งในเกมนี้ เจา เฟลิกซ์ สามารถทำประตูแรกให้กับตัวเองในทีมชุดใหญ่ของสโมสรได้สำเร็จ จากการโหม่งตีเสมอให้กับทีมตีไข่แตก จบเกม เบนฟิก้า เสมอ สปอตร์ติ้ง ลิสบอน 1-1 แต่เขาก็ยังไม่ค่อยได้รับโอกาสอย่างสม่ำเสมอสักเท่าไหร่ ทำให้ฟอร์มการเล่นที่ออกมานั้นดูเหมือนจะยังไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร

ทำให้ซีซั่นดังกล่าว เฟลิก ถือได้ว่าเป็นดาวรุ่งอนาคตไกลที่มีหลายสโมสรจับตามาและอยากได้ไปแสริมแกร่งให้กับทีมอย่างมากมาย ทำให้ค่าตัวของเด็กหนุ่มรายนี้ได้ทะลุขึ้นไปถึง 100 ล้านยูโร แต่ก็ยังมีสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างมากมายที่ต้องการตัวนักเตะรายนี้ไปร่วมทีม

เจา เฟลิกซ์ ตัดสินใจย้ายไปหาประสบการณ์ใหม่ที่ ลา ลีก้า สเปน กับสโมสร แอตฯมาดริด

หลังจากที่ในฤดูกาล 2018-2019 เฟลิก ได้โชว์ผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจ เป็นเด็กระเบิดในวงการลูกหนักโลกได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาก็ได้รับความสนใจจากทางสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วทวีปยุโรปอย่างมากมาย แต่ก็เป็นทางสโมสรแอตเลติโก้ มาดริดที่สามารถคว้าตัว เจา เฟลิกซ์ ไปร่วมทีมได้สำเร็จ ด้วยค่าตัว 162 ล้านยูโร (112.9 ล้านปอนด์) ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 4 ในทันที พร้อมทั้งรับหมายเลข 7 จากทางสโมสรต่อจากทาง อองตวน กรีซมันน์ ไป

แน่นอนว่าด้วยค่าตัวที่สูงที่สุดของสโมสรกับเด็กหนุ่มวัย 19 ปี และตำแหน่งหน้าที่ที่ต้องเข้ามาเป็นตัวแทนของนักเตะรุ่นพี่อย่าง อองตวน กรีซมันน์ ย่อมทำให้เขามีอาการกดดันเป็นอย่างมาก ทำให้เจ้าตัวได้ออกมาประกาศผ่านสื่ออย่างชัดเจนในงานเปิดตัวว่า เขาไม่ได้ย้ายมาสโมสรแห่งนี้เพื่อเป็นตัวแทนของใคร และไม่จำเป็นต้องเอาเขาไปเปรียบเทียบนักเตะซุปเปอร์สตาร์อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รวมไปถึงนักเตะที่เพิ่งอำลาทีมไปอย่าง อองตวน กรีซมันน์

โดยเขามีความต้องการที่จะสร้างประวัติศาสตร์ของตัวเองขึ้นมาใหม่กับทางสโมสร แอตฯมาดริด พร้อมทั้งขอเวลาจากแฟนบอลในการปรับตัวกับทางต้นสังกัดใหม่สักเล็กน้อย พร้อมทั้งให้ความมั่นใจกับทางสโมสรว่าการดึงเขาเข้ามาในร่วมทีมในครั้งนี้ เขาจะสร้างสรรค์เกมและทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด ให้คุ้มกับค่าตัวที่ทางสโมสรเสียไปอย่างแน่นอน

โปรโมชั่น
คืนยอดเสีย 5% สูงสุด 2,000 บาท
สมัครสมาชิกตอนนี้ 300 ฟรี 200 บาท
แนะนำเพื่อนรับทันที 200 บาท
สมัครสมาชิก ID LINE : @win666

กลับหน้าหลัก