วิธีการเล่น โป๊กเกอร์ออนไลน์ (Online Poker) โดยปกติแล้วจะมีการสมมติเจ้ามือหรือดีลเลอร์ขึ้นมา ซึ่งสามารถเป็นผู้เล่นคนใดก็ได้ในโต๊ะ แต่จะไม่เกี่ยวข้องกับการจ่ายผลตอบแทน เนื่องจากว่าจะเป็นการกินรวบทั้งกระดาน ดังนั้นผู้ที่ชนะได้มากที่สุดในโต๊ะ จะได้รับเงินเดิมพันทั้งหมดไปในทันที
ดีลเลอร์หรือเจ้ามือ ถือว่าเป็นตำแหน่งที่แต่ละโต๊ะเดิมพันนั้นสมมติขึ้นมา ซึ่งในปกติแล้ว จะมีการหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปเป็นดีลเลอร์จนแทบจะครบทุกคน โดยผู้เล่นสามารถสังเกตได้จากปุ่ม “Button” ที่มีอยู่ในเกมนั้นเอง
ขั้นตอนการเล่นโป๊กเกอร์ออนไลน์
- เมื่อเข้าสู่การเดิมพันนั้น ผู้เล่นทุกคนจะต้องวางเงินเดิมพัน ให้เท่ากับจำนวนเงินเดิมพันขั้นต่ำของแต่ละโต๊ะ โดยจะต้องวางเงินก่อนที่จะมีการแจกไพ่ (ทั้งนี้ผู้เล่นที่ยังไม่แน่ใจ อาจจะสามารถเข้าไปสังเกตการณ์การเล่นของผู้เล่นแต่ละคนก่อนได้)
- ดังนั้นหากมีการวางเงินแล้ว ก็จะถือเป็นผู้เล่นในรอบนั้นๆทันที และจะมีการแจกไพ่ 2 ใบ ด้วยการคว่ำไพ่
- เมื่อสังเกตเห็นไพ่ที่มีอยู่ในมือว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร จะต้องเลือกว่าจะ ไปต่อ หรือจะหยุดการวางเดิมพัน
- เมื่อเห็นว่าไพ่ดี ก็สามารถวางเงินเดิมพันตามลงไป หรืออาจจะเพิ่มมูลค่าเดิมพันตามการนับไพ่ Poker หากคิดว่าจะมีโอกาสชนะ
- แจกไพ่จนกว่าจะครบ 5 ใบ
- วัดผลแพ้ชนะตามหน้าไพ่
หมายเหตุ ส่วนใหญ่ผู้ที่จะเป็นผู้เรียกเงินเดิมพัน จะเป็นผู้ที่อยู่ซ้ายมือของดีลเลอร์ หรือ Button (ที่มีการสมมติขึ้น)
โป๊กเกอร์รูปแบบของไพ่ที่ต้องรู้จักบริหารการวางเดิมพัน
เกมไพ่โป๊กเกอร์ แม้ว่าจะมีเงื่อนไขที่ค่อนข้างตายตัวอยู่แล้ว แต่สามารถที่จะพลิกแพลงการเล่นให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของเกมได้ จึงทำให้มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง เนื่อกจากว่า ไม่เพียงแต่จะเป็นการแข่งกับตนเอง ยังเป็นการแข่งกับผู้เล่นรายอื่น ที่เปรียบเสมือนเกมเดาใจ
เมื่อเปรียบเทียบกับเกมไพ่อื่นแล้ว โป๊กเกอร์ไม่ได้มีตัวช่วยการเดิมพันเหมือนเกมไพ่ในแบบอื่น เช่น เกมไพ่บาคาร่า ที่จะเป็นการทายผลการแพ้ชนะ หรือมีตัวเลือกอื่นๆที่เพิ่มขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น การเล่นกับไพ่คู่ หรือไพ่เสนอ หรือตัวเลือกอื่นใด ที่จะช่วยลดผลกระทบในการเดิมพัน
ศัพท์ของเกมไพ่โป๊กเกอร์
ศัพท์ Poker | ความหมาย |
Fold | การหมอบ หรือการทิ้งไพ่ยอมแพ้ในมือนั้นๆในแต่ละเกม |
Call | การวางเงินเดิมพันตามมูลค่าที่โต๊ะเดิมพันกำหนด หรือเดิมพันตามผู้เล่นคนอื่น |
Raise | การเพิ่มมูลค่าเงินเดิมพัน ตามจำนวนสูงสุดที่โต๊ะกำหนด หรือการกระทำเกินมูลค่าเงินที่เดิมพัน |
All in | การเดิมพันหมดหน้าตักของมูลค่าเงินที่มี |
Button | เครื่องหมายสมมติแสดงการเป็นเจ้ามือ |
Dealer | เจ้ามือสมมติ ที่เกิดขึ้นเพื่อกำหนดผู้เรียกมูลค่าเดิมพันในครั้งแรก |
Hold cards | ไพ่ 2 ใบแรกที่แจกให้กับผู้เล่นทุกคน ซึ่งจะต้องพักไว้ |
Big blind | การเดิมพันตามมูลค่าขั้นต่ำในโต๊ะเดิมพันโป๊กเกอร์ |
Flop | ชื่อเรียกไพ่ใบที่ 3 ที่เปิดหงายบนกลางโต๊ะ |
Turn | ชื่อเรียกไพ่ใบที่ 4 ที่เปิดหงายบนกลางโต๊ะ |
River | ชื่อเรียกไพ่ใบที่ 5 ที่เปิดหงายบนกลางโต๊ะ |
วิธีการเล่นบาคาร่า
บาคาร่าจะมีวิธีการเล่นเหมือนไพ่ป๊อกเด้งที่ผู้ชนะในตานั้นคือ ผู้ที่ถือแต้มหน้าไพ่ 8 หรือ 9 แต่บาคาร่าจะมีกติกาและวิธีการเล่นแตกต่างออกไป เพราะคุณไม่ได้เป็นผู้ลุ้นไพ่เอง แต่คุณคือผู้ชมเกมที่สามารถพนันว่าฝ่ายใดในเกมนั้นจะเป็นผู้ชนะ ด้วยวิธีการวางเงินเดิมพันไปตามช่องบนกระดานซึ่งแต่ละช่องนั้นก็จะมีรางวัลที่แตกต่างกันออกไปตามความยากง่ายของไพ่ที่จะออกในแต่ละตา
เริ่มเกมจะมีดีลเลอร์ (คนแจกไพ่) แจกไพ่ให้กับผู้เล่นทางฝั่งเจ้ามือและฝั่งผู้เล่น ฝั่งละ 2 ใบ โดยไพ่ที่นำมาแจกนั้นจะใช้ไพ่ 6-8 สำรับ ทำให้แต่ละตามีไพ่มากกว่า 300 ใบที่ทำให้ผู้เดิมพันนั้นคาดเดาได้ยากว่าหน้าไพ่จากฝั่งใดจะเป็นเป็นชนะได้ และคุณที่เป็นผู้วางเดิมพันจะต้องเลือกว่าฝ่ายใดจะมีแต้มหน้าไพ่สูงกว่า
แต้มจากหน้าไพ่แต่ละใบ
บาคาร่ามีการนับแต้มจากหน้าไพ่เหมือนกับการเล่นป๊อกเด้ง นั่นคือ
- 10, J, Q, K มีแต้มเท่ากับ 0
- A มีค่าเท่ากับ 1
- ส่วนไพ่ใบอื่นๆ จะมีแต้มเท่ากับตัวเลขที่อยู่บนหน้าไพ่
การนับแต้ม
- Natural ในภาษาไทยเรียกกันว่าไพ่ป๊อก นั่นคือเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปิดไพ่ 2 ใบแรกมาแล้วได้แต้มรวมที่ 8 หรือ 9 ถือว่าฝ่ายนั้นเป็นผู้ชนะในตานั้น
- La Petite (เลเพไทท์) ศัพท์แสลงในภาษาฝรั่งเศสนั่นคือการ “ป๊อก 8”
- Le Grande (เลแกรนด์) ศัพท์แสลงในภาษาฝรั่งเศสนั่นคือการ “ป๊อก 9”
- Monkey (มังกี้) การเรียกไพ่ที่มีแต้มหน้าไพ่เป็น 0 ซึ่งได้แก่ไพ่ J, Q, K และ 10
การจั่วเพิ่มใบที่ 3
เมื่อทั้งฝ่ายผู้เล่นและฝ่ายผู้เล่นเปิดไพ่ 2 ใบแรกแล้ว ยังไม่สามารถตัดสินการแพ้ชนะได้ (ยังไม่มีฝ่ายใดได้แต้มหน้าไพ่ 8-9) จะมีกฎการจั่วไพ่ใบที่ 3 เกิดขึ้นโดย
ทางฝั่งผู้เล่น
มีแต้มตั้งแต่ 0-5 ต้องจั่วไพ่เพิ่มเพื่อสู้กับเจ้ามือ
มีแต้มมากกว่า 6 ไม่ต้องจั่วไพ่
แต้ม 8-9 คือชนะในตานั้นทันที
ทางฝั่งเจ้ามือ
แต้ม 0-2 ควรจั่วเพิ่ม
แต้ม 3-6 จั่วเพิ่มหรือไม่ก็ได้
มีแต้ม 7 ควรอยู่ไพ่
มีแต้ม 8-9 คือชนะในตานั้นทันที
การเลือกเดิมพัน
วิธีการเดิมพันของบาคาร่าแตกต่างกับไพ่ป๊อกเด้งตรงที่ คุณจะไม่ใช่ผู้ที่ลุ้นไพ่ด้วยตัวเอง ufa365 สมัคร แต่คุณจะเป็นผู้วางเดินพันระหว่างเจ้ามือและผู้เล่น ว่าใครจะเป็นผู้ที่ชนะหรือเสมอกันในเกมนั้น ซึ่งถ้าคุณวางเดิมพันได้ถูกต้องก็จะได้รับรางวัลในตานั้นไป โดยอัตรารางวัลจากการเดิมพันจะแตกต่างกันออกไปตามตำแหน่งที่คุณวางเดิมพัน คือ
- เลือกเดิมพันฝั่งผู้เล่น (Player) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1:1 เช่น วางเงินไป 1,000 จะได้กลับคืนมาอีก 1,000 บาท
- เลือกเดิมพันฝั่งเจ้ามือ (Banker) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1:0.95 (หักคอมมิชชั่น 0.05%)
- เลือกเดิมพันแบบเสมอกัน (Tie) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1:8 แต่ถ้าในตาที่เกิดการเสมอขึ้นคุณวางเดิมพันที่ฝั่งผู้เล่นหรือฝั่งเจ้ามือเอาไว้ คุณจะได้รับเงินเดิมพันคืน
- ผู้เล่นไพ่คู่ (Player Pair) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1:11 โดยเลือกทายเดิมพันว่าฝั่งผู้เล่นจะได้ไพ่ 2 ใบแรกเป็นไพ่ที่แต้มเท่ากันหรือไม่ เช่น 5-5 , K-K, A-A
- เจ้ามือไพ่คู่ (Banker Pair) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1:11 โดยเลือกทายเดิมพันว่าฝั่งเจ้ามือจะได้ไพ่ 2 ใบแรกเป็นไพ่ที่แต้มเท่ากัน
- ดับเบิ้ลคู่ (Perfect Pair) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1:25 โดยเลือกทายเดิมพันว่าทั้งฝั่งเจ้ามือและฝั่งผู้เล่นจะได้ไพ่ 2 ใบแรกที่แต้มเท่ากัน
- ดับเบิ้ลเดี่ยว (Any Pair) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1:5 โดยเลือกทายเดิมพันว่าจะมีไพ่ 2 ใบแรกเป็นไพ่ที่แต้มเท่ากัน ซึ่งจะออกที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งก็ได้รางวัล
- เดิมพันใหญ่ (Big) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1:0.5 โดยเดิมพันว่าในตานั้นจะมีการจั่วไพ่ใบที่ 3 เกิดขึ้น จากฝั่งใดฝั่งหนึ่ง
- เดิมพันเล็ก (Small) จะได้รับอัตรารางวัลแบบ 1:1.5 โดยเดิมพันว่าในตานั้นจะจบเกมโดยไม่มีการจั่วไพ่เพิ่มทั้งจากฝั่งเจ้ามือและฝั่งผู้เล่น